วิศวกรรมโยธา [Civil Engineering] คืออะไร



วิศวกรรมโยธาคืออะไร

วิศวกรรมโยธาเป็นศาสตร์ทางวิศวกรรมที่เกี่ยวข้องกับการใช้หรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่เดิม และการสร้างและใช้สิ่งก่อสร้าง เพื่อตอบสนองความต้องการของสังคมมนุษย์ โดยจะรวมขั้นตอนการออกแบบ การวิเคราะห์ การก่อสร้างหรือการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง การจัดการ และการบำรุงรักษาสิ่งก่อสร้างหรือสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่เดิม งานทางด้านวิศวกรรมโยธามีตัวอย่างเช่น งานออกแบบก่อสร้างและบำรุงรักษาอาคารสูง บ้าน สะพาน เส้นทางรถไฟฟ้า สนามบิน ท่าเรือ เขื่อน ถนน เป็นต้น

วิศวกรรมโยธาเรียนเกี่ยวกับอะไร

ในระดับปริญญาตรี นักศึกษาในสาขาวิชาวิศวกรรมโยธาจะเรียนเกี่ยวกับสิ่งก่อสร้างทางโยธาในหลายรูปแบบ เช่น อาคาร สะพาน สนามบิน ท่าเรือ เขื่อน ถนน สัญญาณไฟจราจร เป็นต้น โดยจะเรียนตั้งแต่การตรวจสอบว่ามีความจำเป็นที่จะต้องมีสิ่งก่อสร้างเหล่านี้หรือไม่ และจะเรียนวิธีวิเคราะห์และออกแบบสิ่งก่อสร้างเหล่านี้ ซึ่งจะรวมไปถึงสิ่งแวดล้อมรอบๆ สิ่งก่อสร้างด้วย นอกจากนี้ นักศึกษาจะได้เรียนเกี่ยวกับการจัดการ การดำเนินการ และการบำรุงรักษาสิ่งก่อสร้างเหล่านี้ด้วย

ผู้ที่จะเข้าศึกษาต้องมีพื้นฐานอะไรบ้าง

ผู้ที่จะเข้าศึกษาควรมีความรู้พื้นฐานทางด้านฟิสิกส์ และคณิตศาสตร์ ที่ดีพอสมควร

เรียนจบแล้วสามารถประกอบอาชีพอะไรได้บ้าง

ผู้ที่สำเร็จการศึกษาในสาขาวิชาวิศวกรรมโยธา สามารถเลือกทำงานในสายงานด้านวิศวกรรมโยธาที่แตกต่างกันมากมาย เนื่องจากสาขาวิชาวิศวกรรมโยธาเป็นสาขาที่ค่อนข้างกว้าง โดยอาจจะทำงานเป็นวิศวกรออกแบบ ซึ่งทำหน้าที่ออกแบบโครงสร้างและสิ่งก่อสร้างทางโยธาชนิดต่างๆ หรืออาจจะทำงานเป็นวิศวกรก่อสร้าง ซึ่งทำหน้าที่ก่อสร้างสิ่งก่อสร้างทางโยธาตามแบบที่วิศวกรออกแบบได้ทำมา หรืออาจจะทำงานเป็นวิศวกรโครงการ ซึ่งทำหน้าที่จัดการโครงการทางวิศวกรรมโยธา

เรียนจบแล้วสามารถทำงานที่ไหนได้บ้าง

ผู้ที่สำเร็จการศึกษาในสาขาวิชาวิศวกรรมโยธา สามารถทำงานในบริษัทวิศวกรที่ปรึกษา บริษัทก่อสร้าง บริษัทผลิตวัสดุและผลิตภัณท์ทางโยธาเช่น ปูนซิเมนต์ เหล็ก พื้นสำเร็จรูป เสาเข็ม เป็นต้น ซึ่งบริษัทเหล่านี้ มีทั้งที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่ บริษัทข้ามชาติ และบริษัทขนาดเล็ก นอกจากนี้ยังสามารถทำงานในองค์กรระหว่างประเทศที่ทำงานเกี่ยวกับการพัฒนา เช่น องค์การสหประชาชาติ เป็นต้น

เรียนต่อด้านไหนได้บ้าง

ผู้ที่สำเร็จการศึกษาในสาขาวิชาวิศวกรรมโยธา สามารถเรียนต่อในสาขาย่อยทางวิศวกรรมโยธาซึ่งเป็นการเรียนไปในทางลึก เช่น อาจจะเรียนต่อในสาขาเฉพาะทางด้านอาคารสูง สะพาน วัสดุก่อสร้าง หรือ การจราจรและขนส่ง เป็นต้น หรืออาจจะเรียนต่อในทางกว้าง เช่น เรียนต่อในด้านการบริหาร เพื่อที่จะมาบริหารงานทางด้านวิศวกรรมโยธา ก็ได้

                                                                                                                ขอบคุณสำหรับข้อมูลจาก http://www.siit.tu.ac.th








วิศวกรรมโยธา ( civil engineering) เป็นศาสตร์ของสาขาหนึ่งในทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ ครอบคลุมการก่อสร้างตึก ตึกระฟ้าอาคาร สะพาน ถนน และระบบขนส่งอื่น ๆ รวมถึงระบบสาธารณูปโภคต่างๆ เช่น เขื่อน คลอง ตลอดจนการทำรังวัดในงานสำรวจและแผนที่ รวมไปถึงการวิเคราะห์ทางธรณีและชลศาสตร์ และการบริหารจัดการการก่อสร้าง งานในทางด้านวิศวกรรมจะเน้นทางด้านการใช้วัสดุและทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผู้ที่ประกอบวิชาชีพในสาขานี้เรียกว่า วิศวกรโยธา หรือเรียกกันว่า นายช่าง ในการทำงานในประเทศไทย ผู้ที่ประกอบวิชาชีพจะขึ้นทะเบียนกับสภาวิศวกรเพื่อรับ ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรม (กว.) โดยมีการจัดสอบระบบใหม่เริ่มต้นเมื่อต้นปี พ.ศ. 2552 ด้วยระบบสุ่มข้อสอบทั้งหมดผ่านระบบคอมพิวเตอร์ (เฉพาะระดับ "ภาคีวิศวกร")
การศึกษาทางด้านวิศวกรรมโยธานั้นนับว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งเนี่องจากการ พัฒนาทางด้านเทคโนโลยีในปัจจุบันนั้นมีความก้าวหน้าสามารถเรียกได้ว่าเป็น การพัฒนาแบบก้าวกระโดดซึ่งมีผลโดยตรงกับการศึกษาทางด้านวิศวกรรมโยธาเช่นกัน ดังนั้นสถาบันการศึกษาหลายๆสถาบันจึงได้มีการปรับปรุงแผนการเรียนการสอนทาง ด้านวิศวกรรมโยธาให้มีความทันสมัยเพื่อผลิตบุคลากรทางด้านวิศวกรรมโยธา หรือที่เรียกกันว่า “วิศวกรโยธา” ที่มีคุณภาพและตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานมากขึ้น
วิศวกรรมโยธาเป็นสาขาวิศวกรรมที่เก่าแก่ที่สุด โดยตอบสนองความต้องการของสังคม


สาขาย่อย


ตัวอย่างแผนที่ใช้ในการแบ่งโซนอาศัย สร้างโดยใช้ระบบ จีไอเอส (GIS) โดยโปรแกรม ชื่ออาร์คจีไอเอส (ArcGIS)
วิศวกรรมโครงสร้าง (Structural Engineering) 
ศึกษาเกี่ยวกับการออกแบบและคำนวณ สิ่งก่อสร้าง การศึกษาในสาขานี้จะเน้นในทางด้านงานคำนวณวิเคราะห์ ออกแบบโครงสร้างของสิ่งก่อสร้าง และแรงต้านทานของวัสดุ เพื่อหาวัสดุและขนาดของวัสดุที่เหมาะสมกับงานนั้นๆ งานที่เกี่ยวข้องได้แก่ การก่อสร้างอาคาร เขื่อนหรือสะพาน เป็นต้น
วิศวกรรมก่อสร้างและการจัดการ (Construction Engineering and Management) 
ศึกษาเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคารเป็นหลัก โดยเน้นศึกษาทางด้านระบบการสร้างอาคาร การวางแผนงาน การประเมินราคาค่าก่อสร้าง นอกจากนี้ ในบางสถาบันจะมีการสอนเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า ระบบปรับอากาศ และระบบสุขาภิบาลภายในอาคาร
วิศวกรรมขนส่ง (Transportation Engineering) 
ศึกษาแยกเป็น 2 สาขาหลักคือระบบและวัสดุ โดยงานทางด้านระบบจะเน้นทางด้านการวางผัง การจราจร และการจัดการทางด้านงานจราจร โดยทำการศึกษาถึงประโยชน์และค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างระบบถนน สำหรับงานทางด้านวัสดุจะเน้นในการศึกษาวัสดุในการทำถนน ได้แก่คอนกรีตและยางมะตอย เป็นหลัก โดยศึกษาถึงกรรมวิธีในการสร้างถนนและปรับปรุงถนน
วิศวกรรมเทคนิคธรณี (Geotechnical engineering) 
ศึกษาเกี่ยวกับคุณสมบัติทางด้านฟิสิกส์และวิศวกรรมของดิน เพื่อการวิเคราะห์ ออกแบบ และแก้ปัญหาด้านวิศวกรรมโยธา
วิศวกรรมธรณี (Geological engineering) 
ศึกษาเกี่ยวกับคุณสมบัติทางด้านฟิสิกส์ วิศวกรรมของหิน และธรณีวิทยาประยุกต์ เพื่อการวิเคราะห์ ออกแบบ และแก้ปัญหาด้านวิศวกรรมโยธาและเหมืองแร่
วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม (Environmental Engineering) 
ศึกษาเกี่ยวกับการจัดการระบบสิ่งแวดล้อมในน้ำและในอากาศ การปรับปรุงคุณภาพของของเสีย
วิศวกรรมแหล่งน้ำ (Water Resource engineering) 
ศึกษาเกี่ยวกับงานทางด้านแหล่งน้ำ ปริมาณน้ำฝน และระบบการระบายน้ำ รวมทั้งการก่อสร้างคู คลอง และแม่น้ำ
วิศวกรรมสำรวจ (Survey Engineering) 
ศึกษาเกี่ยวกับวิธีการทำรังวัดและงานทางด้านสำรวจ สำหรับใช้ในทางด้านแผนที่ รวมถึงการศึกษาทางด้าน จีพีเอส (GPS) และ ภูมิสารสนเทศ (Geoinformatics หรือ Geographic information system;GIS)

                                                                                                                            จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี